ประเทศกัมพูชา
อำเภอขุขันธ์เดิมเป็นที่ตั้งของบริเวณเมืองขุขันธ์ ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของคนไทยหลายเชื้อสาย หลายภาษา เช่น เขมร ลาว ส่วย เยอ จีน เป็นต้น มีจารีตประเพณีและวัฒนธรรมที่งดงามของท้องถิ่นอยู่เป็นจานวนมาก และหนึ่งในจำนวนนั้น ก็คือประเพณีแซนโดนตา ซึ่งเป็นประเพณีเซ่นไหว้บรรพบุรุษของคนไทยเชื้อสายเขมร โดยคนไทยกลุ่มดังกล่าวได้ยึดถือปฏิบัติกันมาแต่ดั้งเดิม เนื่องจากอำเภอขุขันธ์มีคนไทยเชื้อสายเขมร อยู่เป็นจำนวนมาก บรรดาลูกหลานที่ไปทางานต่างถิ่นจะกลับมาร่วมพิธีเซ่นไหว้ที่บ้านเป็นประจำทุกปี แต่การแซนโดนตาได้กระทำกันในครอบครัวบางครอบครัวที่เป็นคนรุ่นใหม่เริ่มขาดความรู้ความเข้าใจในพิธีกรรมดังกล่าวชาวอำเภอขุขันธ์จึงได้จัดงานประเพณีแซนโดนตาขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 เป็นต้นมา เพื่อเป็นการสืบสาน พัฒนาและส่งเสริมวัฒนธรรม ประเพณีในท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ในประเทศกัมพูชา มีการทำบุญประเพณีต่างๆ เหมือนกับเมืองไทยเช่นกัน เช่น วันสงกรานต์ เริ่มจากวันที่ 13 เดือนเมษายน ถึง 15 เมษายน ประเพณีวันลอยกระทง ช่วงสิ้นเดือนตุลาคม และอีกมากมาย วิธีบุญต่างๆ จัดขึ้นทุก ๆ ปีเพื่อให้ลูกหลานได้รู้จักประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามของชาวกัมพูชา กัมพูชาเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน วัฒนธรรมและประเพณีจึงเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ ความเชื่อ วิถีชีวิตของคนในประเทศ เช่น
ระบำอัปสรา (Apsara Dance)
เป็นการแสดงนาฏศิลป์ที่โดดเด่นของกัมพูชา ซึ่งถอดแบบการแต่งกาย และท่าร่ายรำมาจากภาพจาหลักรูปนางอัปสรที่ปราสาทนครวัด เทศกาลน้ำ หรือ "บอน อม ตุก" (Bon Om Tuk)
ชุดประจำชาติ
หญิง
สวมเสื้อมีลายลูกไม้ที่คอและแขน อาจห่มสไบทับ และนุ่งผ้าทอมือ ที่เรียกว่า ซัมปอต (Sampot)
และคาดเข็มขัดทับ ชาย
สวมเสื้อคอปิด แบบราชปะแตนที่ทาจากผ้าไหมหรือผ้าฝ้ายกับกางเกงขายาว และสวมรองเท้าหนังแบบสากล
อาหารประจำชาติ
อาม็อก (Amok)
ทำจากเนื้อปลา ปรุงรสด้วยเครื่องแกงและกะทิ มีลักษณะคล้ายห่อหมกของไทยบางตำรับอาจใช้เนื้อไก่หรือหอยแทน สาเหตุหนึ่งที่คนในประเทศนี้นิยมรับประทานปลา เพราะเป็นอาหารที่หาได้ง่าย เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่มีแหล่งน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง
ดอกไม้ประจำชาติ
ดอกลำดวน (Rumdul)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น